ที่ดิน ส.ป.ก. ความเป็นมาก่อนจะมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เกษตรกรไทยประสบปัญหาไร้ที่ดินทำกินมายาวนาน และทวีความรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลในขณะนั้น ซึ่งมีนายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้จัดตั้งสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ขึ้น
มีวัตถุประสงค์เพื่อนำที่ดินของรัฐ และจัดซื้อที่ดินของเอกชน มาจัดให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ มาดูว่าที่ดิน ส.ป.ก. คืออะไร ซื้อขายได้ไหม แตกต่างจากที่ดินประเภทอื่นอย่างไร และใครมีสิทธิได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก.
ที่ดิน ส.ป.ก. คืออะไร
โดยมีหลักว่า ที่ดินในเขตปฏิรูปนั้นใช้ทำเกษตรกรรมได้อย่างเดียวเท่านั้น ทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ และผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 จะต้องมีฐานะยากจน
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
ที่ดิน ส.ป.ก. ซื้อขายได้ไหม
หากเป็นแต่เดิม ที่ดิน ส.ป.ก. ไม่สามารถซื้อขายได้ บทบัญญัติตาม พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ตามมาตรา 39 ระบุว่า ที่ดินที่บุคคลได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะทำการแบ่งแยก หรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นมิได้
เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม หรือโอนไปยังสถาบันเกษตรกร หรือ ส.ป.ก. เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
หากมีการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดิน ส.ป.ก. กฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้กำหนดมาตรการหรือโทษตามกฎหมาย โดยผู้ขายต้องเสียสิทธิทำกินในที่ดินที่ได้รับอนุญาต ในขณะที่ผู้ซื้อก็ไม่อาจอ้างการซื้อขายเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.ได้ นอกจากนั้นผู้ซื้อและผู้ขายอาจต้องรับโทษอาญาถึงจำคุกด้วย
เปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
แต่ปัจจุบันภาครัฐได้มีการขับเคลื่อนการปรับปรุงหนังสือนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก. 4-0 1 ให้เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือเรียกว่า "โฉนดเพื่อเกษตรกรรม" โดยมีประเด็นสำคัญ คือ หลักการในการดำเนินนโยบาย ได้แก่
1. เร่งรัดปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง และมติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ที่เกี่ยวข้องให้สอดรับกับการขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2566
2. จัดทำร่างระเบียบเพื่อกำหนดรูปแบบและนิยามโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พร้อมทั้งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการ เปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
3. กำหนดคุณสมบัติผู้ได้รับการจัดที่ดินซึ่งเป็นเกษตรกรที่ถือครอง ส.ป.ก.4-01 และได้ทำประโยชน์ในที่ดินมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี
4. กำหนดวิธีการจัดที่ดินโดยจะเป็นการจัดที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมตามการจำแนกพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ที่ดิน
5. กำหนดหลักเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงผู้ทำประโยขน์ โดยให้สามารถเปลี่ยนมือได้ระหว่างเกษตรกรที่มีคุณสมบัติด้วยกันตามที่กฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกำหนด
6. จำนวนเนื้อที่การถือครองยังคงเป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกำหนด
7. กำหนดให้เกษตรกรที่ได้รับโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมต้องปลูกไม้มีค่าในพื้นที่ตามสัดส่วนและชนิดของไม้มีค่าที่ ส.ป.ก. กำหนด
8. แนวทางการควบคุม กำกับ ดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยกำหนดให้เลขาธิการ ส.ป.ก. หรือผู้ซึ่งเลขาธิการ ส.ป.ก. มอบหมาย เป็นนายทะเบียนในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้แก่เกษตรกรโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดค่าดำเนินการที่เกี่ยวข้องในการจดทะเบียน สิทธิและนิติกรรม
9. ส.ป.ก. จะสามารถกำหนดหรือคำนวณมูลค่าที่ดินและทรัพย์สิน เพื่อประโยชน์ในการจัดการทรัพย์สินเพื่อเกษตรกรเพื่อสร้างมูลค่าให้กับที่ดินรัฐ โดยแก้ไขบันทึกข้อตกลงกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อเพิ่มวงเงินค้ำประกันเงินกู้และอำนาจในการจัดทำข้อตกลงกับสถาบันการเงินอื่นเพื่อเพิ่มโอกาสในการใช้เอกสารสิทธิหรือสร้างมูลค่าเพิ่ม
10. การดำเนินการออกโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฉบับแรกจะสามารถแจกให้เป็นจังหวัดต้นแบบได้ภายในวันที่ 15 มกราคม 2567 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องเกษตรกร
11. ส.ป.ก. จะดำเนินการในการออกเอกสารสิทธิในรูปแบบโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในทุกจังหวัดภายใน 1 ปี และจะดำเนินการปรับปรุงเอกสารสิทธิให้กับเกษตรกรที่มีคุณสมบัติครบภายใน 5 ปี
สรุปเงื่อนไขในการเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดเพื่อเกษตรกรรม
เหตุผลที่ คปก. ต้องเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดเพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำคัญดังนี้
- พื้นที่นำร่องจะเริ่มจากพื้นที่ภาคกลางก่อน และจะขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ
- ที่ดิน ส.ป.ก. สามารถซื้อขายให้กับเอกชนได้ แต่ต้องใช้เพื่อทำเกษตรกรรม
- สามารถถือครองโฉนดที่ดิน ส.ป.ก.ได้ไม่เกิน 50 ไร่/คน
- ส.ป.ก. ยังมีอำนาจหน้าที่ในการเข้าไปตรวจสอบในที่ดินเช่นเดิม เพื่อป้องกันไให้เกิดการใช้ที่ดินผิดประเภท
- การจัดที่ดินยังคงเป็นไปเพื่อประกอบเกษตรกรรมตามศักยภาพของพื้นที่
- ต้องปลูกไม้มีค่าในพื้นที่ตามสัดส่วนที่ ส.ป.ก. กำหนด
- ใช้ค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงินได้ทุกแห่ง
- ต้องถือครอง ส.ป.ก. 4-01 และทำประโยชน์มาไม่น้อยกว่า 5 ปี
คุณสมบัติผู้มีสิทธิได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก.
1. มีสัญชาติไทย
2. บรรลุนิติภาวะ หรือเป็นหัวหน้าครอบครัว
3. ประพฤติดี ซื่อสัตย์สุจริต
4. ร่างกายสมบูรณ์ ขยันขันแข็ง
5. ไม่มีที่ดินหรือมีที่ดินเพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอ
6. ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน
7. ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบของ ส.ป.ก.
ผู้มีสิทธิได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก.
ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 ระบุ ผู้มีสิทธิได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก. มี 3 ประเภท คือ
1. เกษตรกร
เป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักอยู่แล้ว โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในรอบปี เพื่อประกอบเกษตรกรรมแห่งท้องถิ่นนั้น
2. ผู้ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก
– ผู้ยากจน มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/คน/ปี
– จบการศึกษาทางเกษตรกรรม ไม่ต่ำกว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า
– เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
3. สถาบันเกษตรกร
– กลุ่มเกษตรกร
– สหกรณ์การเกษตร
– ชุมชนสหกรณ์การเกษตรตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์
หากมีคุณสมบัติตามที่กำหนดดังกล่าวข้างต้น สามารถยื่นคำร้องเพื่อขอรับการจัดที่ดิน ณ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัด โดยให้จัดเตรียมเอกสารและหลักฐาน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน และหลักฐานการมีที่ดิน (ถ้ามี) เพื่อให้ ส.ป.ก.จังหวัด ตรวจสอบคุณสมบัติและดำเนินการจัดหาที่ดิน และจัดที่ดิน ส.ป.ก.ต่อไป
ขอที่ดิน ส.ป.ก. ได้กี่ไร่
– จำนวนที่ดินไม่เกิน 50 ไร่ สำหรับเกษตรกร และบุคคลในครอบรัวเดียวกัน เพื่อใช้ประกอบเกษตรกรรม
– จำนวนที่ดินไม่เกิน 100 ไร่ สำหรับเกษตรกร และบุคคลในครอบรัวเดียวกัน เพื่อใช้ประกอบเกษตรกรรม ประเภทเลี้ยงสัตว์ใหญ่ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศ
– จำนวนตามที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) เห็นสมควรสำหรับสถาบันเกษตรกร
– ถ้าเป็นที่ดินของรัฐ และมีเกษตรกรถือครองอยู่แล้วเกินจำนวนที่กำหนด ก่อนเวลาที่คปก. กำหนด (พ.ศ. 2524) จัดให้ตามจำนวนที่เกษตรกรถือครองได้ แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100 ไร่
การมอบหนังสือรับมอบที่ดิน ส.ป.ก.
เกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกและได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก. จะมีการนัดมอบแปลงที่ดิน และมอบหนังสือรับมอบที่ดินให้แก่เกษตรกรผู้ได้รับการคัดเลือก ตามระเบียบ คปก. ว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2540 ข้อ 5
โดยให้เกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกและได้รับการจัดที่ดิน ลงลายมือชื่อในหนังสือรับมอบที่ดินไว้เป็นหลักฐาน ตามแบบที่ ส.ป.ก. กำหนด (แบบ ส.ป.ก 4-28 ก.)
การออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.
เกษตรกรที่ได้รับการจัดที่ดิน และได้รับหนังสือรับมอบที่ดินจากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดแล้ว
1. กรณีที่ดินที่ได้รับเป็นประเภทที่ดินของรัฐ ส.ป.ก.จะออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01 ข) ให้กับเกษตรกร (ระเบียบ คปก. ว่าด้วย การออก แก้ไขเพิ่มเติม เพิกถอน และออกใบแทนหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2540)
2. กรณีที่ดินที่ได้รับ เป็นประเภทที่เอกชน ที่ดิน ส.ป.ก.ได้มาโดยการจัดซื้อหรือเวนคืน ส.ป.ก. จะจัดทำสัญญาเช่าที่ดิน (ส.ป.ก. 4-14 ก) หรือสัญญาเช่าซื้อที่ดิน (ส.ป.ก. 4-18 ข) กับเกษตรกร
หน้าที่ของเกษตรกรที่ได้รับที่ดิน ส.ป.ก.
1. ต้องทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเอง ห้ามขาย ห้ามให้เช่า หรือให้ผู้อื่นใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้น
2. ขุดบ่อได้ไม่เกิน 5% ของที่ดิน จากเนื้อที่ทั้งหมดที่ได้รับอนุญาตจาด ส.ป.ก. และไม่นำดินที่ขุดออกจากแปลง
3. ต้องดูแลหมุดหลักฐาน และหลักเขตที่ดิน มิให้เกิดความชำรุดหรือเคลื่อนย้าย
4. ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน จนทำให้ไม่เหมาะสมกับการทำเกษตรกรรม
5. ปลูกบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ได้ตามสมควร
6. ยินยอมทำสัญญาและปฏิบัติตามสัญญากับส.ป.ก.
7. ไม่ทำให้สิ่งก่อสร้างและสภาพแวดล้อมในที่ดินเสียหาย
สรุปลักษณะที่ดิน ส.ป.ก.
หัวข้อที่ควรรู้ |
รายละเอียด |
สิทธิในที่ดิน |
อยู่อาศัย ทำเกษตรกรรม |
ผู้มีสิทธิ์ถือครอง |
เกษตรกร, ผู้ที่ต้องการทำเกษตรกรรม, สถาบันเกษตรกร |
ซื้อขาย |
ไม่ได้ |
เป็นมรดกตกทอด |
ได้ |
แย่งครอบครอง |
ไม่ได้ |
ที่ดิน ส.ป.ก. โอนให้ใครได้บ้าง
1. สามี ภรรยา
2. บุตร
3. บิดามารดาของเกษตรกร
4. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันของเกษตรกร
5. พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกันของเกษตรกร
6. หลานของเกษตรกร
ที่ดิน ส.ป.ก. สามารถโอนสิทธิและตกทอดทางมรดกสิทธิให้ทายาท ต้องเป็นเกษตรกรหรือผู้ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักเท่านั้น ดังนี้
– การโอนสิทธิ เกษตรกรที่ได้รับที่ดิน ส.ป.ก. ยังมีชีวิตออยู่ สามารถโอนสิทธิให้ทายาทได้ ต่อเมื่อมีเหตุผลและความจำเป็น เช่น แก่ชรา เจ็บป่วย เป็นต้น
– ตกทอดทางมรดกสิทธิ เกษตรกรที่ได้รับที่ดิน ส.ป.ก. เสียชีวิต ทายาทสามารถยื่นคำร้องขอรับมรดกสิทธิได้
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ที่ดิน ส.ป.ก. ที่จัดให้เกษตรกรตกไปอยู่ในมือของผู้ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และเกษตรกลายเป็น
ผู้เช่าที่ดินทำกิน ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเป็นปัญหาการไร้ที่ดินทำกินต่อไปไม่รู้จบ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ