ครม. เห็นชอบนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียมการโอน เหลือ 0.01% ค่าจำนองเหลือ 0.01% ผู้ที่ซื้อบ้านไม่ถึง 3 ล้าน นำมาหักลดภาษีได้ 5 ปี ช่วยผู้มีรายได้น้อย

4 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

ครม. เห็นชอบนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียมการโอน เหลือ 0.01% ค่าจำนองเหลือ 0.01% ผู้ที่ซื้อบ้านไม่ถึง 3 ล้าน นำมาหักลดภาษีได้ 5 ปี ช่วยผู้มีรายได้น้อย

             วันที่ 13 ตุลาคม 2558 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งประกอบด้วย การเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่ถูกธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อซื้อบ้าน สามารถขอกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยมีวงเงินเบื้องต้น 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากไม่เพียงพอยังสามารถเพิ่มวงเงินได้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2558-31 ธันวาคม 2559 ส่วนเงื่อนไขต่าง ๆ ต้องรอทาง ธอส. ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

             นอกจากนี้ยังอนุมัติลดค่าธรรมเนียมการโอน จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจำนองจาก 1% มาอยู่ที่ 0.01% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึง 30 เมษายน 2559

             ทั้งยังให้สิทธิผู้ที่ซื้อบ้านในราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ให้สามารถนำเอา 20% ของมูลค่าบ้านที่ซื้อไปหักภาษีบุคคลธรรมดาได้เป็นเวลา 5 ปี เพื่อช่วยเหลือคนที่มีรายได้น้อย โดยจะมีผลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 พร้อมกันนี้ทางกระทรวงการคลังยังเตรียมหารือกับธนาคารออมสิน เพื่อพิจารณาปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายย่อย เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมาขยายตัวได้

             ด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยเชื่อว่ามาตรการที่ออกมาเป็นช่วงเวลาเหมาะสม เพราะในปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเริ่มมีเสถียรภาพ การออกมาตรการดังกล่าวในช่วงนี้จะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะถือเป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยได้ และจากนี้จะเริ่มเข้าไปให้ความช่วยเหลือกับผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยการดึงการเคหะแห่งชาติ จัดทำโครงการบ้านมั่นคงต่อไป

             ทั้งนี้ยอมรับว่ามาตรการที่ออกมานั้น จะทำให้รัฐสามารถจัดเก็บรายได้ภาษีลดลง 15,000 ล้านบาทต่อปี แต่เชื่อว่าในอนาคตเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะทำให้เม็ดเงินรายได้ภาษีกลับเข้ามาสูงขึ้นกว่าเสียไปได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก